ไข่ มักจะแตกอยู่เสมอ…
แต่ทำไมคนกลุ่มนี้จึงต้องใช้ความพยายามอย่างมากที่จะทำให้ไข่แตก?
แล้วทำไมไข่จึงมีรูปทรงเช่นนี้?
ความแข็งแรง กับ ความสะดวกใช้
ไข่ จำเป็นต้องแข็งแรงเพื่อทนทานต่อความเสียหายจากสภาพอากาศที่แย่ หรือจากสัตว์อื่นๆ รวมถึงจากแม่ผู้กำลังสร้างรัง
รูปทรงที่แข็งแรงที่สุดสำหรับไข่ควรจะเป็นรูปทรงกลม เนื่องจากแรงกดดัน จะถ่ายทอดออกไปอย่างเท่าเทียมกันตามความโค้งของทั้งรูปทรง
อย่างไรก็ตาม รูปทรงกลมจะไม่ค่อยสะดวกนัก เพราะไข่จะกลิ้งออกไปอย่างง่ายดาย
รูปทรงไข่
ด้วยรูปทรงไข่ ไข่ที่กลิ้งลงเขาจะกลิ้งเป็นแนวทางโค้งรอบปลายด้านแหลม และจะหยุดกลิ้ง โดยปลายด้านแหลมชี้ขึ้นเขา
ด้วยเหตุนี้ นกที่สร้างรังบนหน้าผาจึงวางไข่ที่มีความรีมากกว่านกที่สร้างรังบนพื้นดิน
ที่เป็นเช่นนี้ เพื่อที่ไข่จะกลิ้งม้วนในวงแคบกว่าทำให้ลดโอกาสการกลิ้งหลุดออกนอกรังไป
ข้อได้เปรียบในทางปฏิบัติของรูปทรงไข่อีกข้อ คือไข่หลายใบสามารถเกาะกลุ่มกันภายในรังได้อย่างพอดิบพอดี โดยมีพื้นที่ว่างเพียงเล็กน้อยระหว่างพวกมัน
ความร้อนสามารถแผ่กระจายออกจากไข่ และสร้างความอบอุ่นให้แก่กันและกัน
และยังสามารถบรรจุไข่ในรังได้ในจำนวนมากกว่าอีกด้วย
ความแข็งแรงของไข่
เช่นเดียวกับรูปโค้ง หรือโก่งงอต่างๆ ความแข็งแรงของจุดใดๆ ก็ตามบนวงรี แปรผกผันกับรัศมีของความโค้งของมัน
เพราะฉะนั้น รัศมีที่สั้นกว่าตรงปลายไข่แต่ละด้าน มีความแข็งแรงมาก และรัศมีที่ยาวบริเวณด้านข้างของไข่ จะเปราะบางกว่าอย่างเห็นได้ชัด
นี่เป็นเหตุผลว่าทำไม ไข่จึงทนต่อแรงกดในแนวตั้ง แต่สามารถกะเทาะแตกได้อย่างง่ายดายตามแนวนอน
ดังนั้น รูปทรงไข่ตามแบบฉบับที่รู้จักกันนี้ เป็นการประนีประนอมระหว่างความแข็งแรง และความสะดวกใช้สอย
ซึ่งใช้การได้อย่างสมบูรณ์แบบ สำหรับแม่ผู้กำลังสร้างรังตัวนี้ ปลายด้านที่แข็งแรงปกป้องลูกของเธอ ในขณะที่ด้านข้างก็บางพอที่จะให้ตัวอ่อนกะเทาะออกมาได้