ทุ่งน้ำแข็งในเขตขั้วโลกเป็นบริเวณที่หนาวเย็นที่สุดในโลก อุณหภูมิในฤดูหนาวอาจลดต่ำจนน่าตกใจ ถึงลบ 90 องศาเซลเซียส
แต่กระนั้น สิ่งมีชีวิตหลากหลายชนิดก็มีชีวิตอยู่ และแพร่พันธุ์ในที่แห่งนี้ได้
มันเป็นไปได้อย่างไร?
หมีขาวเป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตซึ่งเป็นสัญลักษณ์ในดินแดนนี้
มันเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเลือดอุ่น ที่ต้องรักษาอุณหภูมิร่างกายให้คงที่
ชั้นไขมันหนาใต้ผิวหนัง หรือที่เรียกว่า บลับเบอร์ และขนหนาสีขาวจะกักเก็บความร้อนไว้ภายใน
ขนยาวชั้นนอกมีลักษณะกลวง เป็นโพรงคอยดักอากาศเพื่อเป็นฉนวนให้แก่ร่างกาย และป้องกันขนชั้นในไม่ให้เปียก
ภายใต้ขนสีขาว หมีขาวมีผิวหนังสีดำช่วยดูดความร้อนจากดวงอาทิตย์
การจำศีลช่วยให้สัตว์ผ่านพ้นเวลาหลายเดือนในฤดูหนาวที่โหดร้ายในสภาวะที่เหมือนหลับอยู่
หัวใจเต้นช้าลง อุณหภูมิร่างกายลดลง สัตว์จะอดอาหาร และมีชีวิตอยู่ได้ด้วยไขมันที่สะสมเอาไว้
การปรับตัวของหมีขาว มีดังนี้:ไขมันใต้ผิวหนัง หรือ บลับเบอร์ขนหนาที่เป็นฉนวนผิวหนังสีดำดูดความร้อนการจำศีล
การปรับขนาดร่างกายและรูปร่างช่วยลดการสูญเสียความร้อน
สัตว์ที่อาศัยอยู่ในที่หนาวเย็นมักจะมีตัวกลมและดูเทอะทะ เพื่อลดการสูญเสียความร้อนจากส่วนปลายแขนและขา
สุนัขจิ้งจอกอาร์กติกมีตัวกลมและขากับหางที่สั้น ลักษณะเหล่านี้ช่วยให้มันทนอุณหภูมิติดลบ 40 องศาเซลเซียสได้
อย่างไรก็ตาม การผสมผสานกันระหว่างสภาพร่างกายและพฤติกรรม จะช่วยให้สัตว์เหล่านี้มีโอกาสรอดชีวิตมากที่สุด
นกเพนกวินจักรพรรดิเกาะกลุ่มกันเพื่อรักษาความร้อน และปกป้องพวกมันและลูกน้อยจากกระแสลม
นี่คือการปรับตัวเชิงพฤติกรรม
เพนกวินยังมีการปรับตัวทางกายภาพต่ออากาศหนาวเย็น ด้วยการมีรูปร่างเพรียว ชั้นไขมันหนาใต้ผิว และขนแผ่นกว้างที่ซ้อนเหลื่อมกัน
การปรับตัวต่อความหนาวเย็นของเพนกวินจักรพรรดิ มีดังนี้:ไขมันใต้ผิวหนัง หรือ บลับเบอร์ รูปร่างเพรียว ขนแผ่นกว้างที่ซ้อนเหลื่อมกัน อยู่กันเป็นกลุ่มเพื่อความอบอุ่น
ดินแดนขั้วโลกที่น้ำแข็ง หิมะ และสายลมไม่มีที่สุดสิ้น มันคือบ้านอันอัศจรรย์ของสิ่งมีชีวิตที่น่าทึ่งมากมาย
ทุกๆชีวิต เป็นผลิตผลจากการปรับตัว