โจ คือชื่อที่ใช้เรียกชายชาวอเมริกันทั่วไป
เรามีข้อมูลมากมายเกี่ยวกับโจ
เขาเป็นชายผิวขาวอายุ 36 ปี เป็นชาวคริสต์ ทำงาน 5.75 ชั่วโมงต่อวัน นอน 8.91 ชั่วโมงต่อวัน ใช้เวลากินและดื่ม 1.16 ชั่วโมงต่อวัน แต่ใช้เวลาเพียง 0.1 ชั่วโมงในการดูแลบ้าน โดยมีรายได้ 39,000 ดอลลาร์ต่อปี 30% ของรายได้เป็นค่าอาหาร...
และเขาอาศัยอยู่ในบ้านหลังเดียวกับอีกหนึ่งคนครึ่ง
ถ้าโจไม่มีภรรยาครึ่งคน ลูกอีกครึ่งคนหรือเพื่อนร่วมห้องอีกครึ่งคน มันคงจะไม่สมเหตุสมผลในเรื่องราวทั้งหมด
นี่เป็นเพราะว่าโจเป็นตัวแทนของพลเมืองชาวอเมริกันมากกว่า 308 ล้านคน
ข้อมูลที่กล่าวไปเกี่ยวกับโจมาแล้วนั้นมาจากค่าเฉลี่ย คือค่าที่เป็นแบบฉบับมากที่สุดในกลุ่ม ของประชากรชาวอเมริกัน
ดังนั้น เมื่อเราพูดว่าคนอเมริกันโดยเฉลี่ยมีผิวสีขาว เราหมายความว่าประชากรส่วนใหญ่มีผิวสีขาว ถึงแม้จะเป็นชาติที่มีความหลากหลายทางวัฒนธรรม
ค่าเฉลี่ยสามารถหาได้ในสามรูปแบบที่แตกต่างกัน
ค่าฐานนิยม คือค่าที่มีความถี่มากที่สุด
สมมุติว่าเพื่อนบ้านของโจมีรถยนต์หนึ่งคัน หนึ่งคัน สองคัน และสามคัน ค่าฐานนิยม คือ หนึ่งคัน เพราะปรากฎค่าให้เห็นถี่ที่สุด
ค่ามัธยฐาน คือ ค่าที่อยู่ตำแหน่งกึ่งกลางของค่าทั้งหมดเมื่อนำข้อมูลมาเรียงตามลำดับ
สมมุติว่าเพื่อนบ้านของโจนอนหลับเป็นเวลาห้าชั่วโมง หกชั่วโมง แปดชั่วโมง เก้าชั่วโมงและสิบชั่วโมง ค่ามัธยฐานของเวลานอนคือ แปดชั่วโมง เนื่องจากเป็นค่าที่อยู่กึ่งกลาง
ค่าเฉลี่ยเลขคณิต คือ ค่าที่ได้จากการนำผลรวมของค่าทั้งหมดมาหารด้วยจำนวนข้อมูล
หากเพื่อนบ้านของโจอาศัยอยู่ในบ้านที่ประกอบไปด้วยหนึ่งคน สองคน สามคนและสี่คน ผลรวมของทุกค่าคือสิบคน เมื่อหารด้วยสี่ครัวเรือนจะได้ค่าเฉลี่ยเลขคณิตเท่ากับ 2.5 คน
ค่าฐานนิยม คือค่าที่พบถี่ที่สุด จะมีประโยชน์เมื่อมีข้อมูลจำนวนมาก
ค่ามัธยฐาน คือค่ากึ่งกลาง จะมีประโยชน์เมื่อข้อมูลบางตัวมีค่าห่างจุดกลางมากสุด
แต่ค่าเฉลี่ยเลขคณิต คือผลรวมทั้งหมดหารด้วยจำนวนข้อมูล เป็นค่าเฉลี่ยที่ใช้กันทั่วไปมากที่สุด
คำอธิบายนี้ทำให้เข้าใจว่าทำไมนายโจถึงพบว่าตัวเขาเองอยู่ในสถานการณ์แปลกประหลาดที่ต้องดำเนินชีวิตกับคนอีกคนครึ่ง