Classroom visuals
Film info
Film summary
อะไรทำให้เกิดสภาพอากาศที่แตกต่างกัน? ลมคืออะไรและมาจากไหน? และระบบความกดอากาศช่วยเราทำนายสภาพอากาศได้อย่างไร?Key facts
- การทำความเข้าใจเกี่ยวกับระบบสภาพอากาศเป็นกุญแจสำคัญในการพยากรณ์อากาศที่เชื่อถือได้
- นักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาสภาพอากาศเรียกว่า นักอุตุนิยมวิทยา
- แผนที่ความกดอากาศเป็นแผนที่ความดันบรรยากาศและแนวปะทะสภาพอากาศ
- ข้อมูลถูกเก็บรวบรวมจากสถานีภาคพื้นดิน บอลลูน เครื่องบินและดาวเทียม
Transcript
ลม ฝน และฟ้าแลบ เป็นสิ่งที่เราสังเกตเห็น
แต่เรามักจะไม่คำนึงถึงระบบสภาพอากาศ ที่อยู่เบื้องหลังสิ่งเหล่านั้น
ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบเหล่านี้เป็นกุญแจสำคัญในการพยากรณ์อากาศที่น่าเชื่อถือ
นักอุตุนิยมวิทยา คือ นักวิทยาศาสตร์ที่ศึกษาสภาพอากาศ โดยใช้แผนที่ความกดอากาศดังตัวอย่างนี้ เพื่อสรุปสภาพบรรยากาศเหนือพื้นที่บริเวณกว้าง
แผนที่ความกดอากาศ
เส้นสีดำ คือ เส้นไอโซบาร์ ซึ่งจะเชื่อมโยงจุดที่มีความดันบรรยากาศเท่ากัน
ยิ่งเส้นไอโซบาร์หลายเส้นใกล้กันเท่าไหร่ ลมก็ยิ่งแรงขึ้นเท่านั้น
เส้นสีแดงบ่งบอกถึงแนวปะทะอากาศร้อน ที่ซึ่งมวลอากาศร้อนกำลังเคลื่อนที่
แนวปะทะอากาศร้อน
เส้นสีน้ำเงินบ่งบอกแนวปะทะอากาศเย็น ที่ซึ่งอากาศเย็นผลักและแทนที่อากาศร้อนที่เคลื่อนขึ้นด้านบน
แนวปะทะอากาศเย็น
แนวปะทะอากาศเย็นเคลื่อนที่ได้เร็วกว่าแนวปะทะอากาศร้อน เมื่อแนวปะทะอากาศเย็นชนกับแนวปะทะอากาศร้อน อากาศร้อนจะถูกดันขึ้นด้านบนและเกิดเป็นแนวปะทะมวลอากาศซ้อน
แนวปะทะมวลอากาศซ้อน แนวปะทะมวลอากาศเย็นแทนที่แนวปะทะมวลอากาศร้อน
การเคลื่อนที่ขึ้นอย่างรวดเร็วของมวลอากาศร้อนทำให้เกิดการควบแน่นอย่างรวดเร็ว และแนวปะทะมวลอากาศซ้อนจะทำให้เกิดฝนตกหนัก
แผนที่จะมีการปรับให้เป็นปัจจุบันทุกๆ หกชั่วโมงโดยการใช้ข้อมูลจากสถานีภาคพื้นดิน บอลลูน และเครื่องบิน และจากดาวเทียม ซึ่งจะอธิบายระบบคร่าวๆ เช่น การเกิดความกดอากาศต่ำที่แอตแลนติก
ความกดอากาศต่ำ คือพื้นที่ที่มีความดันต่ำ
ความกดอากาศต่ำ ความดันต่ำ
เมื่อมวลอากาศร้อนเคลื่อนที่ขึ้น มีความดันอากาศที่น้อยกว่าดันลงมาที่โลก และทำให้เกิดความดันอากาศต่ำ ทำให้เกิดเมฆและฝน
...Please log in to view and download the complete transcript.
