น้ำที่คุณใช้อยู่ทุกวันนี้มีอายุเป็นพันๆ ล้านปี
น้ำทั้งหมดบนโลกถูกวนกลับมาใช้ใหม่อย่างต่อเนื่อง และอยู่บนโลกตั้งแต่ก่อนเริ่มมีสิ่งมีชีวิต
น้ำตกลงมาเป็นฝน ไหลลงสู่แม่น้ำ แข็งจับตัวเป็นธารน้ำแข็ง
และถูกใช้สอยผ่านสัตว์ยุคต่างๆ จากไดโนเสาร์จนมาถึงมนุษย์ เราเรียกการวนกลับมาใช้อย่างต่อเนื่องนี้ว่า วัฏจักรน้ำ
วัฏจักรน้ำ
แหล่งกักเก็บน้ำตามธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดคือมหาสมุทร
เมื่อแสงอาทิตย์ให้ความร้อนแก่พื้นผิวโลก พลังงานความร้อนจะเปลี่ยนน้ำในสถานะของเหลวให้เป็นก๊าซ
กระบวนการนี้เรียกว่าการระเหย
การระเหย
ไอน้ำลอยขึ้นไปในชั้นบรรยากาศ แล้วเย็นตัวลง และควบแน่นเกิดเป็นก้อนเมฆ
หยดน้ำรวมตัวกัน เกิดเป็นหยดที่หนักขึ้น และถูกปลดปล่อยเป็นน้ำฝน
แม้ว่าน้ำฝนจะถูกขัดขวางโดยโครงสร้างตามธรรมชาติ หรือโครงสร้างที่มนุษย์สร้างขึ้น...แต่ส่วนใหญ่จะสามารถไหลผ่านไปตามพื้นผิวโลก ลงสู่แม่น้ำ และทะเลสาบ
น้ำใต้ดินอาจกลับสู่ชั้นบรรยากาศได้โดยผ่านพืชและต้นไม้
น้ำถูกดูดซึมผ่านราก และถูกปลดปล่อยผ่านใบเป็นไอน้ำ
กระบวนการนี้เรียกว่า การคายน้ำ
การคายน้ำ
สุดท้ายไอน้ำนี้จะควบแน่นและเกิดเป็นก้อนเมฆ ตกกลับลงมาสู่โลกเป็นฝน
น้ำฝนส่วนหนึ่งจะไหลลงสู่ใต้ดิน ผ่านหินที่มีรูพรุน
น้ำใต้ดินนี้ สามารถพบได้ที่ใต้ผิวดินลึกหลายร้อยเมตร เกิดเป็นแหล่งน้ำใต้ดิน
น้ำส่วนหนึ่ง ยังถูกเก็บอยู่ในรูปธารน้ำแข็ง ซึ่งกักน้ำให้อยู่ในสภาพน้ำแข็งเป็นเวลาหลายพันปี
น้ำที่อยู่ในแม่น้ำ และทะเลสาบเหล่านี้ ในที่สุดจะกลับไปสู่แหล่งที่มาแห่งแรกของมัน นั่นคือ มหาสมุทร
จากตรงนี้ ...
Please log in to view and download the complete transcript.