พายุเฮอริเคนสามารถทำให้เกิดกระแสลมที่มีความรุนแรงสูง ที่สามารถทำลายเมืองได้
ดังเช่น ภัยพิบัติจากพายุเฮอริเคนแคทรีนาในปีค.ศ.2005 ที่แสดงให้เห็นว่าบางครั้งมหาสมุทรก็นำภัยคุกคามที่ใหญ่ที่สุดมาให้ สตอร์มเซิร์จ หรือ คลื่นพายุซัดฝั่ง
ที่จุดตาพายุของพายุเฮอริเคน จะเกิดความกดอากาศต่ำ ทำให้ระดับน้ำในมหาสมุทรเพิ่มสูงขึ้น ก่อตัวเกิดเป็นคลื่นรูปโดม
กระแสลมรอบพายุจะผลักผิวน้ำลงด้านล่าง ทำให้เกิดความแตกต่างของระดับน้ำที่เพิ่มมากขึ้น
สตอร์มเซิร์จเกิดจาก:ความกดอากาศต่ำที่บริเวณตาพายุ มีแรงกดลงจากความดันของพายุเฮอริเคน ผิวน้ำในมหาสมุทรก่อตัวเกิดเป็นคลื่นรูปโดม
ระดับน้ำที่ยกตัวสูงขึ้นนี้เคลื่อนที่เข้าหาชายฝั่งไปพร้อมๆ กับพายุ และคลื่นที่มีความสูงมากกว่า 6 เมตร สามารถทำให้เกิดน้ำท่วมใหญ่ได้
เคอร์รี เอมานูเอล สถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์–“ประวัติศาสตร์แสดงให้เราเห็นแล้วว่า การสูญเสียชีวิตที่มากที่สุดเกิดในเหตุการณ์นี้ เกิดจากสตอร์มเซิร์จ เพราะระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วมากๆ และถ้าหากคุณไม่รู้ว่ากำลังเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น คุณอาจจะจมน้ำได้ ถ้าคุณอยู่นอกบ้าน บนถนน หรือในรถไฟใต้ดิน หรือสถานที่เช่นนี้”
พายุเฮอริเคนก่อตัวในพื้นที่ที่มวลอากาศชื้นเคลื่อนที่ยกตัวขึ้นจากมหาสมุทรที่อบอุ่น
อย่างไรก็ตาม นักวิทยาศาสตร์เตือนว่าการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลก ทำให้มหาสมุทรนอกเขตโซนร้อน ร้อนเพิ่มขึ้น
ในไม่ช้าไม่นาน บริเวณที่พายุเฮอริเคนก่อตัวอาจจะขยายตัวในเขตพื้นที่ที่กว้างขึ้น เนื่องจากอุณหภูมิของน้ำในมหาสมุทรที่เพิ่มสูงขึ้น
ซึ่งหมายความว่าเมืองที่ใกล้ชายฝั่ง เช่น โตเกียว ฮ่องกง บริสเบน และนิวยอร์ก อาจจะตกเป็นเหยื่อของการทำลายล้างจากสตอร์มเซิร์จ
...Please log in to view and download the complete transcript.