ตั้งแต่แขนของกาแล็กซีทางช้างเผือก…ไปจนถึงรูปแบบการบินของเหยี่ยวที่พุ่งเข้าหาเหยื่อของมัน และพืชนานาพรรณที่ดูแปลกตา เส้นวงก้นหอย ปรากฏให้เห็นโดยทั่วไปตามธรรมชาติ
แต่ว่ามีเส้นวงก้นหอยในธรรมชาติหลากหลายรูปแบบที่แตกต่างกันที่พบบ่อย ได้แก่ วงก้นหอยลอการิทึม วงก้นหอยอาร์คิมีดีส วงก้นหอยไฮเพอร์โบลา และวอร์เท็กซ์รูปวงรี
ถึงแม้ว่าที่กล่าวมาทั้งหมดคือ เส้นวงก้นหอย แต่เส้นวงก้นหอยแต่ละประเภทมีลักษณะเฉพาะที่อธิบายได้ โดยรัศมีความโค้ง...และการเปลี่ยนแปลงของรัศมี ตลอดแนวความโค้ง
วงก้นหอยลอการิทึม
วงก้นหอยลอการิทึม ปรากฏบ่อยที่สุดตามธรรมชาติและสามารถพบเห็นได้บนเปลือกหอย รวมทั้งเปลือกหอยทาก
ลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์คือ ระยะระหว่างรอบ จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ด้วยตัวคูณคงที่เป็นลำดับ ที่เรียกว่าการก้าวหน้าเรขาคณิต
วงก้นหอยอาร์คิมีดีส
วงก้นหอยอาร์คิมีดีส พบเห็นได้จากการสร้างใยแมงมุม
ในทางตรงกันข้ามกับวงก้นหอยลอการิทึม วงก้นหอยแบบนี้มีลักษณะที่เป็นเอกลักษณ์ คือมีระยะระหว่างรอบความโค้งคงที่
วงก้นหอยไฮเพอร์โบลา
วงก้นหอยไฮเพอร์โบลา พบได้ในโครงสร้างของกิ่งก้าน ใบ และยอดไม้เลื้อยที่โค้งเป็นเกลียว
บางครั้ง วงก้นหอยประเภทนี้ ถูกเรียกกันว่าวงก้นหอยผกผัน เนื่องจากมันทำความโค้งในทิศตรงกันข้ามกับวงก้นหอยอาร์คิมีดีส แต่ก็ยังต่างกันด้วยตรงที่ความโค้งจะม้วนแน่นขึ้นเรื่อยๆ เมื่อเข้าใกล้สู่จุดศูนย์กลาง
วอร์เท็กซ์รูปวงรี
คำว่า ‘วอร์เท็กซ์’ ใช้กับของไหลที่หมุนวนเป็นเกลียว เช่น กระแสน้ำแปรปรวน หรือ เปลวสุริยะ
วอร์เท็กซ์รูปวงรี มันจะมีรูปร่างคล้ายแผ่นดิสก์ แสดงถึงความโค้งที่มากกว่า
Alถึงแม้เราไม่รู้ว่าทำไมรูปแบบเหล่านี้จึงปรากฏขึ้นบ่อยครั้ง แต่เชื่อกันว่าเส้นวงก้นหอย เป็นรูปทรงที่มีอยู่แพร่หลายที่สุดในธรรมชาติ