Classroom visuals
-
![เชื้อเพลิงชีวภาพ]()
เชื้อเพลิงชีวภาพ
-
![น้ำมันปาล์ม]()
น้ำมันปาล์ม
-
![เชื้อเพลิงชีวภาพ]()
เชื้อเพลิงชีวภาพ
-
![แสงอาทิตย์]()
แสงอาทิตย์
-
![แผงพลังงานแสงอาทิตย์]()
แผงพลังงานแสงอาทิตย์
-
![ปั๊มน้ำมันที่ขายเชื้อเพลิงชีวภาพ]()
ปั๊มน้ำมันที่ขายเชื้อเพลิงชีวภาพ
-
![รถยนต์ไฟฟ้า]()
รถยนต์ไฟฟ้า
-
![โรงไฟฟ้านิวเคลียร์]()
โรงไฟฟ้านิวเคลียร์
-
![แท่งเชื้อเพลิงนิวเคลียร์]()
แท่งเชื้อเพลิงนิวเคลียร์
-
![สกัดไอโซโทปรังสี]()
สกัดไอโซโทปรังสี
-
วัฏจักรเชื้อเพลิงชีวภาพ (มีข้อความประกอบ)
-
วัฏจักรเชื้อเพลิงชีวภาพ (ไม่มีข้อความประกอบ)
-
วัฏจักรเชื้อเพลิงชีวภาพ (มีข้อความประกอบ)
-
วัฏจักรเชื้อเพลิงชีวภาพ (ไม่มีข้อความประกอบ)
Film info
Film summary
หากเราหันมาพึ่งพาเชื้อเพลิงชีวภาพจากปาล์มน้ำมัน จะส่งผลกระทบเชิงบวกที่มีต่อเกษตรกรและผลกระทบเชิงลบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมและป่าฝนเนื่องจากการบริโภคที่มากเกินไปอย่างไร?Key facts
- เชื้อเพลิงชีวภาพจากปาล์มน้ำมันมีราคาถูก เป็นพลังงานทดแทน และปล่อยมลพิษปริมาณต่ำ
- น้ำมันปาล์มมากกว่า 90% ถูกผลิตในประเทศอินโดนีเซียและมาเลเซีย
- ป่าฝนกำลังถูกทำลายเพื่อผลิตน้ำมันปาล์มซึ่งส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศท้องถิ่น
- การใช้เชื้อเพลิงชีวภาพจะเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
Transcript
ความต้องการใช้น้ำมันปาล์มกำลังพุ่งสูงขึ้น
น้ำมันปาล์มที่ได้จากผลปาล์มมากกว่า 70% ใช้ในการผลิตอาหาร แต่มันยังถูกใช้ในเครื่องสำอางและถูกใช้เพิ่มมากขึ้นในไบโอดีเซล
หากเปรียบเทียบกับปี ค.ศ.2000 คาดว่าความต้องการจะเพิ่มเป็นสองเท่า ภายในปี ค.ศ.2030 และเป็นสามเท่าในปี ค.ศ.2050
ไบโอดีเซลจากน้ำมันปาล์มมีราคาถูก ผลิตทดแทนได้อย่างต่อเนื่องและปล่อยมลพิษต่ำ
แต่ยังมีข้อถกเถียงว่า สิ่งนี้ยังห่างไกลจากการเป็นเชื้อเพลิงที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากวิธีการผลิตของมัน
การสูญเสียที่อยู่อาศัย
ป่าดิบชื้นที่อุดมสมบูรณ์กำลังถูกทำลายเพื่อผลิตน้ำมันปาล์ม ทำให้กระบวนการผลิตมีการปล่อยคาร์บอนมากกว่าการดูดซับ
น้ำมันปาล์มมากกว่า 90% ถูกผลิตในอินโดนีเซียและมาเลเซีย
98% ของป่าดิบชื้นในประเทศเหล่านี้จะหายไปภายในเวลา 15 ปี
ดร.ดัก พาร์ หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ กรีนพีช – “บางส่วนของอินโดนีเซียเป็นพื้นที่ดินพรุ ปัจจุบันเมื่อพื้นที่ดินพรุถูกทำลายเพื่อขยายพื้นที่เพาะปลูกปาล์มน้ำมัน ทั้งหมดจะกลายมาเป็นคาร์บอน มันจะกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ และเมื่อคุณทำลายพื้นที่ป่าพรุมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประเทศนี้จะกลายเป็นประเทศที่มีการปล่อยคาร์บอนเป็นอันดับสามของโลกรองจากจีน และสหรัฐอเมริกา”
การผลิตน้ำมันปาล์มในพื้นที่ดินพรุอินโดนีเซีย:พื้นที่ ป่าดิบชื้น 2.8 ล้านเฮกเตอร์ถูกทำลายในแต่ละปี ทำให้เกิดคาร์บอนไดออกไซด์ 1,400 ล้านตันต่อปี ปัจจุบันเป็นประเทศที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ เป็นอันดับสามของโลก
การสูญเสียสายพันธุ์
...Please log in to view and download the complete transcript.
