Classroom visuals
Film info
Film summary
ค้นหาเทคนิคทางวิศวกรรมธรณีบางอย่างที่นักวิทยาศาสตร์พัฒนาขึ้นเพื่อจัดการสภาพภูมิอากาศของโลก พวกมันคืออะไรและพวกมันทำงานอย่างไร?Key facts
- วิศวกรรมภูมิศาสตร์มุ่งมั่นที่จะใช้เทคโนโลยีในการจัดการสภาพภูมิอากาศและต่อสู้กับภาวะโลกร้อน
- เลนส์สะท้อนแสงในอวกาศสามารถลดภาวะโลกร้อนได้
- การฉีดพ่นอนุภาคเกลือลงในทะเลเพื่อที่จะทำให้เมฆหนาขึ้นสามารถช่วยในการระบายความร้อนของโลก
- ยิงกำมะถันเข้าสู่ชั้นบรรยากาศสามารถทำหน้าที่เหมือนเป็นอุปกรณ์ทำความเย็น แต่ยังก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่ดี
Transcript
วิศวกรรมธรณี
ศาสตร์อย่างเช่น วิศวกรรมธรณี ได้มุ่งมั่นที่จะพัฒนาเทคนิคแห่งอนาคต ที่มีอิทธิพลต่อสภาพภูมิอากาศของโลกและการต่อสู้กับภาวะโลกร้อน
การจัดการการแผ่รังสีสุริยะ
แผนปฏิบัติการหนึ่งของศาสตร์นี้เกี่ยวข้องกับการวางเลนส์สะท้อนแสงขนาดเล็กหลายล้านล้านตัวในอวกาศ เพื่อที่จะลดปริมาณแสงอาทิตย์ที่ตกกระทบพื้นผิวโลกและทำให้โลกร้อนมากขึ้น
จากการที่เลนส์เหล่านี้สะท้อนแสงให้ออกไปจากโลกได้ประมาณ 2% ของรังสีจากดวงอาทิตย์ มันจึงช่วยลดภาวะโลกร้อนได้
สามารถลดการแผ่รังสีสุริยะได้ 2% เพียงพอที่จะทำให้สภาพภูมิอากาศของโลกมีเสถียรภาพ
แต่ด้วยค่าใช้จ่าย 392 ล้านล้านดอลลาร์ วิธีการนี้เป็นทางออกที่มีราคาแพง
การปล่อยละอองเกลือทะเล
แนวคิดอื่นคือการเพิ่มระบบระบายความร้อนของโลกด้วยวิถีทางของธรรมชาติ โดยการทำให้ก้อนเมฆมีขนาดหนาขึ้น และสะท้อนแสงได้มากขึ้น
ซึ่งทำได้โดยการฉีดพ่นอนุภาคเกลือเข้าไปในชั้นบรรยากาศที่สูงขึ้นไป
ไอน้ำของน้ำทะเลจะถูกฉีดพ่นออกจากท่อหมุนขนาดยักษ์
อนุภาคของเกลือในชั้นบรรยากาศจะดึงดูดไอน้ำ ทำให้เกิดก้อนเมฆที่หนาขึ้น ซึ่งจะสะท้อนความร้อนจากดวงอาทิตย์ ทำให้โลกเย็นลง
แต่ปฏิบัติการที่จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่ออุณหภูมิโลกอย่างเห็นได้ชัดแบบนี้ ต้องใช้น้ำทะเลในปริมาณมหาศาล
นวัตกรรมในการสกัดกั้นความร้อนอื่นๆ สามารถเกิดได้จากภัยธรรมชาติ
กำมะถัน
ภูเขาไฟพินาทูโบ ประเทศฟิลิปปินส์
ในปีค.ศ.1991 การปะทุของภูเขาไฟพินาทูโบ ในประเทศฟิลิปปินส์มีคนเสียชีวิตหลายร้อยคน และบ้านเรือนได้รับความเสียหายหลายพันหลัง
พุ่งกระจายขึ้นไป 40 กิโลเมตร ในชั้นบรรยากาศ ปล่อยกำมะถัน 10 ล้านตัน
การเคลื่อนที่ของกำมะถันที่ปะทุ
แต่สองปีต่อมา …
Please log in to view and download the complete transcript.
