อินเดีย
ประมาณ 500 ปีหลังคริสตกาล
จารึกโบราณบอกเราว่า นักปราชญ์ชาวอินเดียได้พัฒนาคณิตศาสตร์มาหลายศตวรรษก่อนที่โลกตะวันตกจะเริ่มให้ความสนใจกับมัน
การค้นพบของพวกเขาทำให้เกิดความเข้าใจลึกซึ้งในหลายๆ สาขา เช่น ตรีโกณมิติ และดาราศาสตร์
แต่หนึ่งในผลงานชิ้นเด่นที่สุดของอินเดีย แท้จริงแล้วคือ จำนวนลบ
หลังจากที่ได้รับการยกย่องในเรื่อง ‘การค้นพบ’ จำนวนศูนย์ เมื่อประมาณห้าร้อยปีหลังคริสตกาล นักคณิตศาสตร์ชาวอินเดียก็ได้รับการเสนอปัญหาที่เกี่ยวข้องกับค่าที่น้อยกว่าศูนย์
ต่ำกว่าศูนย์
ผู้คนในยุคนั้นเข้าใจกันว่าบางอย่างสามารถมีค่าน้อยกว่าศูนย์ได้
ตัวอย่างเช่น ถ้าเขามีเงินไม่พอจ่าย แล้วเขาจะเป็นหนี้อยู่เท่าไหร่
แต่แนวคิดที่ว่าปริมาณต่างๆ เหล่านี้คือตัวเลขตามที่มันควรจะเป็นนั้นยังห่างไกลจากรากฐานทางความคิดในสมัยนั้น
นักคณิตศาสตร์ชาวอินเดียที่ยิ่งใหญ่ชื่อ พรหมคุปต์ ได้ให้คำนิยามเกี่ยวกับตัวเลขเหล่านี้ และ อธิบายวิธีการใช้มัน
พรหมคุปต์
598 – 670 ปีหลังคริสตกาล
จำนวนลบ
พรหมคุปต์พบว่าจำนวนลบเป็นแนวคิดที่เป็นนามธรรม
อะไรก็ตามที่น้อยกว่าการที่ไม่มีอะไรเลยไม่สามารถมีจริงเป็นรูปธรรมได้
แต่เขาก็ให้เหตุผลว่าจำนวนลบสามารถจัดการได้โดยทางทฤษฎี และใช้กฎคล้ายๆ กับที่ใช้กับจำนวนบวก
พรหมคุปต์อ้างอิงถึงจำนวนที่แตกต่างกันทั้งสองนี้โดยใช้ภาษาการค้าขายแลกเปลี่ยนซึ่งใช้กันในสมัยนั้น
เขาใช้คำว่า ‘โชคลาภ’ เพื่อสื่อถึงจำนวนบวก
สำหรับจำนวนลบ เขาเรียกมันว่า ‘หนี้สิน’
พรหมคุปต์เขียนกฎง่ายๆ ขึ้น เช่น ‘โชคลาภหักออกจากศูนย์ คือ หนี้สิน’
และ ‘หนี้สินลบศูนย์คือหนี้สิน’
ด้วยคำอธิบายง่ายๆ ทั้งสิบเอ็ดข้อความ พรหมคุปต์ได้ตั้งกฎชุดแรกที่ใช้ได้กับทั้งจำนวนบวกและจำนวนลบ
กฎของพรหมคุปต์ยังสามารถนำไปใช้ในการหาคำตอบของสมการตัวแปรกำลังสองที่ซับซ้อน และสมการหลายตัวแปรได้...
และอินเดียโบราณได้พัฒนาต่อไปในการเป็นจุดเริ่มของแนวคิดทางคณิตศาสตร์
ต้องใช้เวลาอีกแปดศตวรรษกว่าที่ชาวยุโรปจะเริ่มเข้าใจจำนวนลบ
แต่กฎของพรหมคุปต์ยังคงใช้ศึกษากันอย่างแพร่หลายทั่วโลกในปัจจุบัน