ในปี ค.ศ. 1920 วิกฤติการณ์การเงินในเยอรมนี ทำให้สกุลเงินเยอรมันแทบไม่มีค่า และธนบัตรถูกนำไปเผาทำเป็นเชื้อเพลิง
สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง
ปี ค.ศ.1914-1918
สงครามโลกครั้งที่ 1 ส่งผลให้มีคนตายและบ้านเมืองถูกทำลายมากมายอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
เมื่อสงครามยุติลง เยอรมนีถูกบังคับให้ต้องจ่ายค่าปฏิกรณ์สงครามให้กับประเทศคู่สงครามเป็นจำนวนมาก คิดเป็นจำนวนเงินรวมทั้งสิ้นมากกว่า 130,000 ล้านเหรียญทองมาร์กเยอรมัน
ภาระมหาศาลของหนี้ก้อนนี้มากเกินกว่าจะรับไหว เพราะฉะนั้นรัฐบาลเยอรมันจึงเริ่มพิมพ์เงินออกมามากขึ้นๆ
แต่ขณะที่พิมพ์ธนบัตรใหม่เข้าสู่ระบบ เงินที่หมุนเวียนอยู่ในระบบอยู่แล้วก็จะมีค่าน้อยลงไปเรื่อยๆ
และเพราะค่าของเงินน้อยลง ราคาของสินค้าจึงสูงขึ้น
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้เรียกว่า ภาวะเงินเฟ้อ
ภาวะเงินเฟ้อ
ภาวะเงินเฟ้อ เกิดขึ้นได้ทั่วไปในเกือบทุกประเทศ และเป็นตัวสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของค่าครองชีพ
ภาวะเงินเฟ้อ:
การเพิ่มขึ้นของราคา
ซึ่งสะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของค่าครองชีพ
และทำให้ข้าวของมีราคาแพงขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
เงินเฟ้อโดยปกติแล้วจะเกิดขึ้นในอัตราเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ต่อปี
เราอาจอธิบายโดยใช้ถ้อยคำในสมัยนี้ได้ว่า ขนมปังหนึ่งแถว ที่มีราคาหนึ่งดอลลาร์ ในปีนี้ อาจมีราคาเป็น หนึ่งดอลลาร์ กับอีกสองเซ็นต์ ในปีถัดไป
ภาวะเงินเฟ้อขั้นรุนแรง
ย้อนกลับไปในปี ค.ศ.1913 อัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีอยู่ที่ประมาณ 2% ต่อปี
แต่ในปี ค.ศ.1923 เงินเฟ้อได้เพิ่มขึ้นในอัตราที่มากอย่างไม่น่าเชื่อถึง 900% ต่อเดือน
ซึ่งที่อัตราการเพิ่มนี้ ราคาสินค้าจะเพิ่มขึ้น 10 เท่า ทุกเดือน
เดือนที่หนึ่ง: 1 มาร์ก × 10 = 10 มาร์ก
เดือนที่สอง: 10 มาร์ก × 10 = 100 มาร์ก
เดือนที่สาม: 100 มาร์ก × 10 = 1,000 มาร์ก
เงินเฟ้อในอัตราที่สูงขนาดนี้ เรียกกันว่า ภาวะเงินเฟ้อขั้นรุนแรง
ภาวะเงินเฟ้อขั้นรุนแรง คือเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นในอัตราที่เพิ่มอย่างรวดเร็วมาก
ในปี ค.ศ.1913 รองเท้าคู่หนึ่งมีราคาประมาณ 12 มาร์ก
และในที่สุด ราคาข้าวของก็ขยับขึ้นในอัตรา 41% ต่อวัน
ที่จุดสูงสุดของภาวะเงินเฟ้อขั้นรุนแรง 1 ดอลลาร์มีค่ามากกว่า 1 ล้านล้านมาร์ก
เงินค่าจ้างมีจำนวนสูงมากเสียจนผู้คนต้องขนเงินกันเป็นตะกร้าๆ
แต่ถึงแม้ว่าจะมีฐานะเป็นเศรษฐีเงินล้าน แต่ละครอบครัวต้องประสบกับความยากลำบากในการหาซื้ออาหาร และยิ่งไปกว่านั้น คนทั่วไปนำเงินมาใช้เผาเป็นเชื้อเพลิง เพราะว่ามันมีค่าน้อยกว่าไม้ฟืนเสียอีก
และในที่สุด เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี ค.ศ.1923 เงินสกุลมาร์กแบบเก่าก็ได้ถูกเลิกใช้งานไปและเงินตราสกุลใหม่ถูกนำมาใช้แทนที่