โลกกำลังร้อนขึ้น
อุณหภูมิทั่วโลกกำลังสูงขึ้น แต่แสงอาทิตย์ลดกำลังลง
ตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1950 ปริมาณพลังงานแสงอาทิตย์ที่ตกกระทบพื้นผิวโลกลดลง…
มันลดลง 9% ในทวีปแอนตาร์กติกา 10% ในประเทศสหรัฐอเมริกา 30% ในประเทศรัสเซีย และลดลงถึง 60% ในประเทศสหราชอาณาจักร
ซึ่งปรากฏการณ์นี้ เรียกว่า ภาวะโลกมืด
ภาวะโลกมืด การลดลงของแสงอาทิตย์ที่ตกกระทบพื้นผิวโลก
ความเข้มของแสงจากดวงอาทิตย์แทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่เกิดการเปลี่ยนแปลงกับชั้นบรรยากาศของโลกเรา
การเผาไหม้ของน้ำมันเชื้อเพลิง ทำให้เกิดอนุภาคเล็กๆ ของเขม่า และสารมลพิษอื่นๆ
การมืดลงของโลกเกิดขึ้นเนื่องจากมลพิษทางอากาศที่มองเห็นได้นี้ ปิดกั้นแสงของดวงอาทิตย์บางส่วน และมีผลกระทบต่อการก่อตัวของก้อนเมฆ
การเกิดก้อนเมฆ
ก้อนเมฆเกิดจากโมเลกุลของน้ำ ซึ่งรวมเข้ากับอนุภาคของฝุ่นละออง
แต่อนุภาคของมลพิษทางอากาศมีขนาดเล็กกว่า และมีปริมาณมากกว่า ทำให้มีก้อนเมฆที่เกิดจากหยดน้ำขนาดเล็กกว่าปกติจำนวนมาก ซึ่งจะสะท้อนแสงอาทิตย์กลับไปในอวกาศได้มากขึ้น
ศาสตราจารย์ วีรภัทราน รามานาทาน มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา– “สาเหตุหนึ่งที่มีส่วนสร้างปัญหาคือตัวอนุภาคของมลพิษเอง มันปิดกั้นมหาสมุทรไว้จากแสงอาทิตย์ ในขณะเดียวกันมันก็ทำให้ก้อนเมฆสว่างขึ้น ดังนั้นหมอกหนาที่อันตราย ซึ่งประกอบไปด้วย เขม่า ซัลเฟต ไนเตรต ...
Please log in to view and download the complete transcript.