ลึกลงไปในจุดศูนย์กลางของโลกมีแหล่งความร้อนที่ร้อนกว่าผิวของดวงอาทิตย์ถึง 1,000 องศา
อุณหภูมิหลอมเหลวของแกนโลกคือ 6,200 oC
ความร้อนนี้เกิดขึ้นในหินหนืดของโลก ซึ่งก็คือชั้นของหินร้อนและหินหลอมละลาย การสลายตัวของวัตถุกัมมันตรังสีตามธรรมชาติ เช่น ยูเรเนียมและโพแทสเซียม
ชั้นที่ลึกลงไปเพียง 10,000 เมตรใต้ผิวโลก ให้พลังงานมากกว่าพลังงานทั้งหมดของทรัพยากรน้ำมันและก๊าซธรรมชาติทั้งหมดในโลก 50,000 เท่า
แต่การใช้ประโยชน์ของแหล่งพลังงานความร้อนใต้พิภพไม่ใช่เรื่องง่าย
เราสามารถเข้าถึงได้เฉพาะบริเวณเปลือกโลกที่บางหรืออ่อนเช่น ในบริเวณที่แผ่นเปลือกโลกชนกัน และมีภูเขาไฟคุกรุ่นอยู่มาก
ประเทศไอซ์แลนด์
ประเทศไอซ์แลนด์ ตั้งอยู่บนแนวต่อของแผ่นเปลือกโลกสองแผ่นและมีการใช้พลังงานความร้อนใต้พิภพในสองวิธี
การใช้โดยตรง
เกือบ 90% ของอาคารในประเทศไอซ์แลนด์ได้รับความร้อนและน้ำร้อนโดยตรงจากพลังงานความร้อนใต้พิภพ
น้ำร้อนจะถูกสูบจากใต้พื้นดินและส่งผ่านท่อใต้ดินเพื่อให้ความร้อนภายในอาคาร
พลังงานไฟฟ้า
ถึงแม้ว่าความต้องการไฟฟ้าของประเทศไอซ์แลนด์ส่วนใหญ่จะได้มาจากโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ แต่เกือบ 25% มาจากโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ
ซึ่งทำงานโดยการสูบน้ำเย็นกลับลงไปในพื้นดินที่ร้อน
ทำให้เกิดความดัน และส่งน้ำกลับขึ้นสู่พื้นผิว
มันกลับขึ้นมาในลักษณะของไอน้ำ หมุนใบพัดของกังหัน ทำให้เกิดกระแสไฟฟ้า
การใช้ในอนาคต
โรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่าโรงไฟฟ้าพลังงานเชื้อเพลิงฟอสซิล 2,000 เท่า ทำให้มันเป็นแหล่งพลังงานที่สะอาดมาก
ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทำให้เราสามารถใช้ประโยชน์จากพลังงานความร้อน
ใต้พิภพในทั่วทั้งโลกได้มากขึ้น
ซึ่งหมายความว่าพลังงานที่เก่าแก่ของโลกเราจะมีบทบาทสำคัญในการตอบสนองความต้องการด้านพลังงานของเราในอนาคตได้อย่างยั่งยืน
Please log in to view and download the complete transcript.