นับตั้งแต่สิ่งมีชีวิตถือกำเนิดขึ้นบนโลก วัฏจักรของการเปลี่ยนแปลงก็เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เริ่มจากวิวัฒนาการของสปีชีส์ใหม่ ตามมาด้วยการแข่งขัน และนานเข้าก็สูญพันธุ์ไป
หากสิ่งมีชีวิตทั้งสปีชีส์ตายหมด เรียกว่าการสูญพันธุ์
การสูญพันธุ์
มันเป็นการสูญเสียตลอดไป บางครั้งอาจทิ้งเพียงร่องรอยลึกลับไว้ในซากดึกดำบรรพ์
การสูญพันธุ์เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เรื่อยๆ
นับตั้งแต่สิ่งมีชีวิตแรกกำเนิดขึ้นบนโลก สิ่งมีชีวิตนับล้านสปีชีส์ได้สูญพันธุ์ไปแล้ว
99% ของสปีชีส์ทั้งหมดได้สูญพันธุ์ไปแล้ว
ความหลากหลายของชีวิตในวันนี้เป็นเพียงเสี้ยวเดียวของสิ่งมีชีวิตที่เคยมีมาบนโลกนี้
โดยเฉลี่ยแล้วแต่ละสปีชีส์อยู่รอดได้ 4 ล้านปี
การสูญพันธุ์เกิดขึ้นตลอดเวลา เพราะปัจจัยที่ทำให้เกิดการสูญพันธุ์มีอยู่มากมาย
สาเหตุใหญ่ของการสูญพันธุ์ได้แก่โรคภัยไข้เจ็บใหม่ๆผู้ล่ารายใหม่เข้ามาคุกคามการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศการสูญเสียแหล่งอาศัยตามธรรมชาติตลอดจน การแข่งขันกับสปีชีส์อื่น
โรคภัยไข้เจ็บใหม่ๆ ผู้ล่ารายใหม่ การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ การสูญเสียแหล่งอาศัย การแข่งขัน
เมื่อเผชิญกับความท้าทายเหล่านี้ สปีชีส์ที่ไม่สามารถปรับตัวได้รวดเร็วพอ ก็จะสูญพันธุ์ไปในที่สุด
เนื่องจากสิ่งชีวิตแต่ละสปีชีส์ต้องพึ่งพิงกันเพื่อความอยู่รอด เมื่อสปีชีส์หนึ่งสูญพันธุ์ สปีชีส์อื่นๆ ก็อาจจะสูญพันธุ์ตามไปได้
การสูญพันธุ์เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติและเป็นส่วนหนึ่งของวิวัฒนาการที่สำคัญ เพราะเป็นการสร้างโอกาสใหม่ให้กับชีวิตอื่นๆ
หากไดโนเสาร์ไม่ได้สูญพันธุ์ไปจากโลก สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมก็หมดโอกาสแพร่พันธุ์จนมีความหลากหลายและครองโลกแห่งสัตว์บก รวมทั้งมนุษย์เราอาจไม่ได้ถือกำเนิดขึ้นมาอย่างทุกวันนี้
อย่างไรก็ตาม จากประวัติศาสตร์เมื่อไม่นานมานี้ การแข่งขันในกลุ่มมนุษย์ได้กลายเป็นปัจจัยสำคัญที่คุกคามสิ่งมีชีวิตอื่นๆ และเป็นเหตุให้เกิดการสูญพันธุ์เพิ่มขึ้น
และเชื่อกันว่า ขณะนี้เรากำลังเดินไปสู่เหตุการณ์ที่แม้จะไม่ได้เกิดขึ้นง่ายนัก แต่มีผลกระทบรุนแรงมาก เรียกว่าการสูญพันธุ์ครั้งใหญ่ ซึ่งหมายความว่าสิ่งมีชีวิตทั้งโลกจะสูญพันธุ์เกือบหมดเลยทีเดียว
Please log in to view and download the complete transcript.