Classroom visuals
Film info
Film summary
เมื่อความต้องการใช้ไฟฟ้ามากขึ้น มันอาจกลายเป็นอันตรายได้ เนื่องจากไฟฟ้ากักเก็บยาก บริษัทพลังงานจัดการกับการปรับสมดุลที่ละเอียดอ่อนนี้อย่างไร?Key facts
- ผู้ผลิตไฟฟ้าต้องมีการจัดการความสมดุลระหว่างอุปสงค์และอุปทาน
- ไฟฟ้าไม่สามารถเก็บไว้ได้อย่างง่ายในระบบขนาดใหญ่
- เพื่อคงกำไร โรงไฟฟ้าจะต้องระมัดระวังไม่ให้ผลิตไฟฟ้ามากเกินไป
- การสำรองคือเมื่อโรงไฟฟ้าจะถูกปิดต้องรอให้ความต้องการและราคาเพิ่มขึ้นก่อนที่จะเริ่มต้นการผลิต
Transcript
ผู้ผลิตไฟฟ้าจัดการสมดุลที่ละเอียดอ่อนระหว่างอุปสงค์และอุปทาน
ไม่เหมือนกับแหล่งพลังงานอื่นเช่น เชื้อเพลิงฟอสซิล เราไม่สามารถกักเก็บไฟฟ้าไว้ในปริมาณที่มากได้
ผู้ผลิตต้องคาดการณ์ว่าประชาชนจะต้องการไฟฟ้าปริมาณเท่าไหร่ และทำให้กำลังการผลิตของพวกเขาเพียงพอที่จะตอบสนองต่อความต้องการนั้น
เดวิด พอร์ตเตอร์ สมาคมผู้ผลิตไฟฟ้า สหราชอาณาจักร – “มันเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูงมาก บางครั้งก็โหดร้ายทีเดียว เช่นเดียวกับตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ในปัจจุบัน เช่น ชา กาแฟ หรือน้ำตาล แต่แน่นอน ไฟฟ้ามีความแตกต่าง เพราะคุณไม่สามารถเก็บตุนไฟฟ้าไว้ได้ นี่หมายความว่าเมื่อคุณผลิตไฟฟ้า คุณต้องตัดสินใจอย่างแม่นยำเพื่อให้แน่ใจว่าสิ่งที่คุณกำลังผลิตคือสิ่งที่คนต้องการในขณะนั้น”
เพื่อคงกำไร ผู้ผลิตต้องระวังที่จะไม่ผลิตเยอะเกิน
บางครั้ง อาจจะต้องดำเนินการที่รุนแรงบ้าง
เดวิด แอนเดอร์สัน สถาบันวิศวกรรมโยธา สหราชอาณาจักร – “โรงไฟฟ้าที่ไม่มีประสิทธิภาพซึ่งไม่สามารถแข่งขันในตลาดที่ทันสมัยและไม่สามารถให้ผลตอบแทนสำหรับบริษัทที่ผลิต สามารถถูกปิดและเก็บไว้ในโกดัง ซึ่งเรียกว่า การปิดโรงงานชั่วคราว”
การปิดโรงงานชั่วคราวเป็นกระบวนการซึ่งถูกใช้โดยบริษัทไฟฟ้า เป็นการปิดโรงงานไฟฟ้าเพื่อรอการเพิ่มขึ้นของอุปสงค์และราคา ก่อนที่จะเริ่มการผลิตใหม่อีกครั้ง
แต่ก็อาจจะใช้เวลานานมากในการเปิดโรงงานที่ปิดไปชั่วคราวอีกครั้ง จนนำไปสู่ความกลัวว่า ในอนาคต เมื่อราคาเพิ่มขึ้นพร้อมความต้องการที่เพิ่มขึ้น การผลิตอาจจะไม่ทันต่อความต้องการ และนำไปสู่เหตุการณ์ไฟฟ้าดับในระบบไฟฟ้าได้
เดวิด แอนเดอร์สัน สถาบันวิศวกรรมโยธา สหราชอาณาจักร– “นี่เป็นปัญหาใหญ่เพราะว่า ...
Please log in to view and download the complete transcript.
