Classroom visuals
Film info
Film summary
เมื่อภูเขาไฟปะทุที่ประเทศไอซ์แลนด์ในปีค.ศ.2010 เถ้าภูเขาไฟทำให้เครื่องบินหลายร้อยลำไม่สามารถขึ้นบินได้ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น? ประสบการณ์ในอดีตแสดงให้เห็นว่าการบินผ่านเมฆเถ้าภูเขาไฟนั้นสามารถเป็นอันตรายได้Key facts
- ในเดือนมีนาคม ปีค.ศ.2010 การปะทุของภูเขาไฟเอยาฟยาตลาเยอคุตล์ (Eyjafjallajökull) ในประเทศไอซ์แลนด์ ทำให้เที่ยวบินพาณิชย์เหนือภาคตะวันตกและภาคเหนือของทวีปยุโรปถูกยกเลิก
- เมฆเถ้าภูเขาไฟยักษ์ที่เกิดจากการปะทุเป็นอันตรายต่อเครื่องบิน
- อนุภาคขนาดเล็กของหินและเถ้าภูเขาไฟสามารถหยุดการทำงานของเครื่องยนต์อากาศยาน
- ซึ่งทำให้ต้องบังคับให้ปิดสนามบินหลายแห่งทั่วโลก
Transcript
ตลอดระยะเวลาในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ภูเขาไฟปล่อยสสารจำนวนมากขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศของเรา
ในโลกสมัยใหม่ของเรา การปะทุก่อให้เกิดอันตรายมากมาย
แต่ไม่ใช่เฉพาะลาวาที่พุ่งออกมาเท่านั้นที่ทำให้เกิดปัญหามากที่สุด
เมื่อวันที่ 20 มีนาคม ค.ศ. 2010 มีภูเขาไฟปะทุขึ้นที่ประเทศไอซ์แลนด์
เมืองเอยาฟยาตลาเยอคุตล์ ประเทศไอซ์แลนด์ เดือนมีนาคม ค.ศ. 2010
แม้จะเป็นการปะทุขนาดเล็ก แต่เถ้าภูเขาไฟที่เกิดจากการปะทุกลับส่งผลกระทบอย่างมากต่อเศรษฐกิจของยุโรป
เถ้าภูเขาไฟ อนุภาคขนาดเล็กของหินและเถ้า
ลมพัดพากลุ่มควันไปทางตะวันตกและทางเหนือของทวีปยุโรป
ทำให้ต้องปิดสนามบิน และมีผู้โดยสารตกค้างทั่วโลก
เครื่องบินถูกห้ามบิน เนื่องจากอาจเกิดอันตรายได้หากต้องบินฝ่าเมฆเถ้าภูเขาไฟ
เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน ค.ศ. 1982 นักบินชาวอังกฤษ กัปตันเอริค มูดี้ เป็นผู้ประสบกับเหตุอันตรายเช่นนี้ด้วยตนเอง
ในระหว่างที่เที่ยวบินกำลังบินข้ามมหาสมุทรอินเดีย เขาเห็นประกายไฟที่ปีกเครื่องบิน ซึ่งโดยปกติแล้วจะเกิดจากพายุฝนฟ้าคะนองที่รุนแรง แต่ครั้งนี้มันแตกต่างออกไป
กัปตันเอริค มูดี้ นักบิน – “ผมกำลังมองไปที่ เรดาร์ เพื่อมองหาพายุฝนฟ้าคะนองขนาดใหญ่ แต่ผมมองไม่เห็นอะไร ขณะที่เรากำลังปรึกษากัน วิศวกรการบินก็แจ้งข่าวร้ายว่าเครื่องยนต์หมายเลข 4 ไม่ทำงาน ...
Please log in to view and download the complete transcript.
