ถ้ำที่สวยงามและยิ่งใหญ่เช่นที่อยู่ในเม็กซิโกนี้ ใช้เวลาก่อตัวขึ้นเป็นพันๆ ปี และได้รับการค้นพบโดยบังเอิญ
มันเกิดจากการกระทำของน้ำฝนที่เซาะผนังถ้ำที่สวยงามเหล่านี้อย่างช้าๆ
เมื่อน้ำฝนผ่านอากาศและพื้นดิน มันจะดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และเกิดเป็นกรดคาร์บอนิก
กรดคาร์บอนิก H2CO3
กรดอ่อนนี้จะซึมผ่านชั้นดินและละลายหินปูนซึ่งประกอบด้วยแคลเซียมคาร์บอเนตอย่างช้าๆ
หินปูน = แคลเซียมคาร์บอเนตที่ไม่บริสุทธิ์ CaCO3
เมื่อเวลาผ่านไป จึงเกิดเป็นช่องว่างที่เราเรียกว่าถ้ำ
น้ำหยดลงด้านข้างของถ้ำเหล่านี้อย่างช้ามาก ดังนั้นจึงละลายแคลเซียมจากหินปูนได้มากขึ้น
ผลึก
ในบางถ้ำ สารละลายกลายเป็นสารละลายอิ่มตัว และไม่สามารถรับสารประกอบแคลเซียมเพิ่มได้อีก
ไอออนความเข้มข้นสูงในสารละลาย หมายถึงการปะทะกันอย่างคงที่ของไอออน และพวกมันเริ่มเกาะกันเป็นของแข็ง
เมื่อรวมกันเป็นกลุ่มก้อน พวกมันก็จะดึงดูดไอออนอื่นๆ มาร่วมมากขึ้น ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า นิวคลีเอชัน
นิวคลีเอชัน
ไอออนเหล่านี้จะจัดเรียงตัวอย่างเป็นระเบียบ ในรูปแบบซ้ำๆ ซึ่งทำให้เกิดโครงสร้างผลึก
ผลึกอาจจะโตเพียง 1 มิลลิเมตรต่อปี
และหากน้ำระเหยไปจากสารละลายเหล่านี้อย่างช้าๆ มันจะทิ้งผลึกแคลไซต์ขนาดใหญ่ไว้
เมื่ออยู่ในสภาวะที่เหมาะสมด้วยอุณหภูมิและความชื้นที่เสถียร ผลึกเหล่านี้จะเติบโตออกไปในทุกทิศทาง
ผลึกที่เราเห็นในถ้ำในทุกวันนี้ มีอายุเป็นร้อยเป็นพันปี
การก่อตัวของหินที่เห็นอยู่ทั่วไป มีสองรูปแบบ คือ หินงอก…
หินงอก – งอกขึ้นด้านบน
...Please log in to view and download the complete transcript.