Classroom visuals
Film info
Film summary
เมื่อชาวอเมริกันได้พยายามตรวจจับการแผ่รังสีจากระเบิดโซเวียต พวกเขากลับได้ค้นพบการปะทุของรังสีแกมมา ซึ่งเป็นการแผ่รังสีจากอวกาศที่ห่างไกลKey facts
- ในช่วงสงครามเย็น สหรัฐอเมริกาสงสัยว่าสหภาพโซเวียตแอบทำการทดลองอาวุธนิวเคลียร์บนด้านมืดของดวงจันทร์
- ในปีค.ศ.1967 ดาวเทียมถูกสร้างขึ้นเพื่อตรวจจับสัญญาณของอาวุธนิวเคลียร์พบสัญญาณทรงพลังจากห้วงลึกในอวกาศ
- เมื่อดาวฤกษ์ขนาดใหญ่ดับ หลุมดำจะเกิดขึ้นและแผ่รังสีความถี่สูงที่เรียกว่า รังสีแกมมา
- การระเบิดรังสีแกมมาที่ไกลที่สุดเท่าที่พบอยู่ห่างออกไป 13,000 ล้านปีแสง
Transcript
“ทุกฐานทัพโปรดทราบ ทุกฐานทัพโปรดทราบ นี่ศูนย์บัญชาการ นี่ศูนย์บัญชาการ”
สงครามเย็นเป็นชื่อเรียกความบาดหมางระหว่างสหรัฐอเมริกากับสหภาพโซเวียต ที่เกิดขึ้นหลังจากสงครามโลกครั้งที่สอง
สงครามเย็น ปี ค.ศ.1945 – 1991
ความขัดแย้งนี้นำไปสู่การค้นพบที่ไม่ธรรมดาและคาดไม่ถึง...
... ลึกเข้าไปในอวกาศ
ชาวอเมริกันเชื่อมั่นว่าชาวโซเวียตแอบทำการทดลองอาวุธนิวเคลียร์บนด้านมืดของดวงจันทร์ ซึ่งเป็นด้านที่มองไม่เห็น
สเตอลิง คอลเกต ห้องปฏิบัติการวิจัยแห่งชาติ ลอส อลามอส – “ผมไม่อยากเชื่อว่าทุกวันนี้ เรื่องแบบนี้จะกลายเป็นเรื่องน่าขำไป แต่โซเวียตเองก็คงหวาดระแวงเช่นเดียวกัน”
สเตอร์ลิง คอลเกต เป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับการทดสอบระเบิดนิวเคลียร์ ซึ่งทำงานอยู่ฝั่ง อเมริกัน ได้สร้างดาวเทียมที่สามารถ ตรวจจับสัญญาณของอาวุธนิวเคลียร์ได้แม้กระทั่งในอวกาศ
โครงการเวล่า
พวกเขาพบสัญญาณสัญญาณหนึ่ง แต่มันไม่ได้มาจากดวงจันทร์ ทั้งยังมีกำลังสูงกว่าระเบิดนิวเคลียร์
ตรวจพบสัญญาณครั้งแรกในปี ค.ศ.1967
พวกเขาได้เห็นการแผ่รังสีจากการระเบิดรังสีแกมมา การระเบิดที่รุนแรงเนื่องจากจุดจบของดาวฤกษ์
ศาสตราจารย์เซอร์ มาร์ติน รีส์ ราชสมาคมดาราศาสตร์แห่งสหราชอาณาจักร– “พวกมันมีพลังงานสูงกว่า รังสีมีความเข้มมากกว่าทุกแห่งที่เราเคยพบ น่าจะเป็นแหล่งที่หลุมดำถือกำเนิดขึ้นใหม่”
เมื่อดาวฤกษ์ซึ่งมีขนาดใหญ่มากดับลง จะเกิดเป็นหลุมดำและส่งแผ่รังสีความถี่สูงที่เรียกว่า รังสีแกมมาออกไป
...Please log in to view and download the complete transcript.
